เส้นทางที่ไม่แน่นอนของ คริสเตียน เอริคเซน ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ชะตากรรมของ คริสเตียน เอริคเซน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่น่าสนใจ หลังจากฤดูกาลที่ผ่านมาที่เขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงเพียง 14 นัดใน พรีเมียร์ลีก และทุกรายการ ทำให้หลายคนคาดการณ์ว่าเจ้าตัวน่าจะอำลาทีมในช่วงซัมเมอร์ แต่สถานการณ์กลับพลิกผันไม่เป็นอย่างที่คิดไว้
แต่เดิมความสัมพันธ์ระหว่าง เอริคเซน กับ เอริค เทน ฮาก อดีตกุนซือ ปีศาจแดง นั้นไม่ค่อยราบรื่นนัก โดยเฉพาะหลังจากที่โค้ชชาวดัตช์ให้โอกาส คอบบี้ ไมนู ดาวรุ่งของทีมลงสนามมากขึ้น ส่งผลให้เวลาการลงเล่นของมิดฟิลด์ทีมชาติเดนมาร์กลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม เพลย์เมคเกอร์จอมเก๋ารายนี้ก็สามารถพิสูจน์ตัวเองและกลับมาเป็นกำลังสำคัญของทีมในฤดูกาลนี้ได้ โดยได้ลงสนามเป็นตัวจริงถึง 9 นัด พร้อมทั้งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยิง 4 ประตูและทำอีก 3 แอสซิสต์ จนขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดร่วมอันดับ 2 ของทีม
แม้ว่าผลงานส่วนตัวของ เอริคเซน จะน่าประทับใจ แต่ผลงานโดยรวมของทีมกลับย่ำแย่จนนำไปสู่การปลด เอริค เทน ฮาก ออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บด้วย
ภายใต้การคุมทีมชั่วคราวของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ตำแหน่งในแดนกลางดูเหมือนจะเป็นของ คาเซมิโรและ มานูเอล อูการ์เต้ ซึ่งทั้งคู่ทำผลงานได้น่าประทับใจ และมีแนวโน้มที่จะได้สานต่องานร่วมกับ รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่ที่เข้ามาทำงานที่ แคร์ริงตัน เรียบร้อยเมื่อไม่กี่วันก่อน นั่นจึงทำให้สถานการณ์ของ เอริคเซน ยิ่งยากลำบากขึ้นไปอีก
เป็นที่รู้กันดีว่าสไตล์การทำทีมของ อโมริม นั้นเน้นความเข้มข้นและการเพรสซิ่งสูง ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำหรับ เอริคเซน ที่อยู่ในวัยอายุ 32 ปีแล้ว เพราะแม้ว่าเขาจะมีทักษะการผ่านบอลที่ยอดเยี่ยม วิสัยทัศน์ในการอ่านเกมที่กว้างไกล แต่เรื่องความแข็งแกร่งและพลังงานที่ต้องใช้ในระบบใหม่เป็นคำถามที่เจ้าตัวต้องเผชิญ
ด้วยเหตุนี้ทำให้ล่าสุด เว็บไซต์ Givemesport ได้รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังพิจารณาที่จะปล่อยตัวอดีตกองกลาง อินเตอร์ มิลาน ออกจากทีมในเดือนมกราคมนี้ เพื่อที่จะได้รับค่าตัวบางส่วนคืน ก่อนที่สัญญามูลค่า 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ของเขาจะหมดลง
ด้านตัวนักเตะเองก็ยอมรับว่ายังไม่ทราบอนาคตที่แน่ชัดของตัวเอง แต่ก็เน้นว่าจะทุ่มเทเต็มที่ในการฝึกซ้อมเมื่อกลับมาที่ แมนเชสเตอร์ และให้การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเป็นของกุนซือคนใหม่ ซึ่งจะมีผลต่ออนาคตของผู้เล่นหลายคนในทีม ไม่ใช่แค่ เอริคเซน เท่านั้น
ในท้ายที่สุด เส้นทางของเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเดนมาร์กที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด อาจกำลังจะสิ้นสุดลง แม้ว่าเขาจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความสามารถ และคุณค่าในสนาม แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายใต้การนำของ รูเบน อโมริม อาจทำให้อนาคตของเขาในสีเสื้อ ปีศาจแดง นั้นสั้นลงกว่าที่คาดการณ์ไว้.
- ขอบคุณภาพข่าวสารจากเว็บไซต์ : www.manutd.com